7.25.2550

Rik wachirapilun


ออกจะ surprise ซะหน่อยเมื่อริคกลายเป็นส่วนหนึ่งของ creasendo ภาคปัจจุบัน แต่สำหรับเราๆ ที่คุ้นเคยกับความเป็นเพื่อนระหว่างกันก็เข้าใจกันดี ริคก็จะได้มีวงที่เล่นด้วยกันเป็นตัวเป็นตนซะที แต่สิ่งหนึ่งที่ ณ ตอนนี้ริคยังบอกกับเราก็คือ ริคยังคงเป็นริคเช่นเดิม เพียงแต่มีอีกภาค อีกร่างในนาม creasendo
และนี่ก็เป็นข่าวคราวริคภาคปกติ (ที่หลายคนอาจรู้สึกไม่ปกติ) มินิอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า Pandora ของริค ได้ดำเนินการบันทึกเสียงใกล้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ฉะนั้นแฟนเพลงริคชนิด hardcore ไม่ต้องเป็นห่วง ชุดนี้มีนักร้อง นักดนตรีที่ริคคุ้นเคย และ guest พิเศษ เอาไว้จะมาแจ้งทีหลัง เอาแค่นี้เรียกน้ำย่อยก่อน ด้านล่างคือรายชื่อเพลง ณ ปัจจุบัน
๑. เมืองต้องทัณฑ์
๒. อีเดน
๓. เสี้ยม
๔. อันทรชาติ
๕. เงาบุหลัน
๖. แสงแห่งความเศร้า

** นี้คืออัลบั้มแรกที่ ริค produced เองแบบเต็มๆ
และลูกริค ฤาเม ก็เข้าโรงเรียนแล้วครับ
** สื่อสารกับริคได้ที่ http://www.myspace.com/rikwachirapilandevi

T-bone go Glastonbury 2007 again : rain mud shit & music

updated !!
check our glastonbury 2007 pictures more at www.hualampongriddim.com and goto special page

T-bone ได้ลากสังขารมาร่วมเทศกาลสำคัญอีกครั้ง Glastonbury 2007 หลังจากทางผู้จัดเว้นไปปีเพื่อหญ้า และผืนดินได้หายใจ ครั้งนี้ดูจะไม่มีอะไรยากสำหรับเราอีกแล้วหลังจากได้รู้จักเทศกาลนี้แบบเต็มๆ เมื่อปี 2005 อุปกรณ์ดำรงชีพ อาหาร เรียกว่าพร้อมรบ พร้อมรับทุกสถานการณ์ "แน่จริงมีงมาเลย" (หากจนป่านนี้ยังมีใครนึกภาพเทศกาลนี้ไม่ออกลองไปหา DVD T-bone go outdoor ดู)

นอกจากทีโบน Hardcore ที่ผ่านสมรภูมินี้มาแล้ว 5 คน คราวนี้มีน้องใหม่ คือมือเบส sunny, Baritone sax กุ๊ก, Trumpet หริด ร่วมกับชาวคณะจากการสนับสนุนของช้าง พ่วง ทีม FAT และน้องๆ ที่ชนะโครงการพากันมาที่นี้โดยช้างดราฟ จริงๆ จะมากันเยอะกว่านี้ หลังจากได้ชิมลางจาก DVD ดังกล่าวได้ถอนกำลังไปหลายหน่วย


เมื่อมาถึงก็สูดอากาศเดิมๆ ที่เคย มองท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำๆ มองพื้นดิน ที่ภายใต้หญ้าเขียวไม่นานดินเหนียวด้านล่างจะกลับมาลอยเจิ่งนองด้านบนเมื่อเคมีระหว่าง น้ำฝนและรอบย่ำของมหากรรมคน จะผสมกันจนเกิดทะเลโคลน ห้องน้ำที่โชยกลิ่นมาแต่ไกล ฮะฮ่า again +++
หลังจากปรับปรุงเต็นท์ที่พักให้สามารถรองรับเหตุการณ์น้ำท่วมแล้วก็ออกเดินสำรวจหาอะไรรับประทาน รู้สุกหลอนๆ นิด เพราะทุกอย่างแทบจะเหมือนเดิม นอกจากตำแหน่งเวทีใน Dance village สลับกันนิดหน่อย กับสีของทิวธง


เวทีแรก The Left feild Stage ที่เล่นประมาณเวลา เที่ยง ของวันศักร์ วันแรกของงาน ปีก่อนเราก็มีแผนจะมาเล่นเวทีนี้แต่ด้วยหมดแรงกันซะก่อนจึงขอไม่ไปเล่น เดินฝ่าฝนกันมาถึงเวทใหญ่กว่าที่คิดเป็นเต็นท์ที่มี 2 เวที เล่นสลับกัน ด้านหน้าเป็นเวทีเล็กๆ ด้านหลังเป็นเวทีใหญ่ ทำให้เราพอมีเวลาสำหรับการ set up มากเป็นพิเศษ จำได้คราวที่แล้วตอนเล่นเวที Root ตอนไปถึงคนเต็มเวที พอเปลี่ยนวงเป็น Hiphop เฮ่ยๆ โหวกเหวกน่ารำคาญ ก็ทำเอาคนค่อยๆทยอยหายไปในที่สุด ฉนั้นวงก่อนหน้านี่สำตัญสำหรับวง Noname อย่างเรา คราวนี่ก็เลยต้องลุ้นดู แล้วก็ ...... โดนอีกแล้ว จากคนยืนดูกึ่งหลบฝน พอวงก่อนหน้าเล่นสักพัก ประจวบกับแดดออก คนก็ทยอยเดินออก จนถึงเวลาเล่นคนก็ยังหลอมแหลม แต่จะกลัวอะไรเล่า หลังจาก T-bone ซัดต่อเนื่อง 2 เพลง คนก็ทยอยกันมาดู ... ใช้ได้

นี่คืออีกเวทีในวันเดียวกัน ประมาณ สี่โมงเย็น ที่ Root stage ปีนี้เป็นที่น่าสังเกตุอย่างคือวงดนตรีที่เป็นวงเล่นกันสดๆ ลดจำนวนลงมาก เหลือเป็น DJ บ้าง Labtop บ้าง เลยพาลคิดไปหรือว่าคนกำลังเปลี่ยนไม่สนใจว่ามันจะเกิดจากอะไร ขอแค่มีเสียง และสนุกก็พอ เหลือบนเวที คน สอง คน ทำให้เวลา T-bone ยกไปเล่นกันทั้งวงที่ไหนคนมักสงสัยว่ามากันหมดได้ไงเนี่ย ? เราเองยังสงสัย เวทีนอกจากคุณฝรั่งๆ แล้วยังมีคนไทยที่ตั้งใจมาดูจำนวนนึง ที่มาพร้อมกับธงชาติประหนึ่งมาแข่งอะไรสักอย่างในนามทีมชาติไทย :)

หลังจากงานวันศุกร์เราก็ party ยาว ท่ามกลาง ฝน ฝน และ ฝน โคลน และเสียงดนตรี ปีนี้ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด ทั้งๆ ที่ได้เตรียม mark ตารางแสดงวงดนตรีที่น่าสนใจไว้มากมาย ผมกลับเลือกที่จะสนุกอยู่ใกล้ที่พักกับ พี่เล็ก พี่หนุ่ม พี่แก็บ ทีโบน ไปไหนไม่รอดเกินอาณาเขตใน dance village และ Pussy Bar แต่นั่นก็ทำให้เราได้พบวง reagae ska ดีๆ ที่ชื่อไม่คุ้น วงเด็กๆที่เล่น Drums&bass กันสดๆ หรือ ska rock จาก สเปน เพลินๆไปตลอด 3 วัน ที่เดินเดี่ยวไปดูโดยเฉพาะก็เป็น Bjork ที่แสดงสดเพลงชุดใหม่อย่างอลังการ เสียงดี ผิดกับวง acade fire ที่อลังการ แบบเสียงแย่สุดๆ


นี่คือเวทีสุดท้ายในหัวค่ำวันอาทิตย์ วันปิดงาน ที่ Ballroom stage ที่ Lost vagueness ดินแดนลี้ลับอีกแห่งของ Glastonbury เวทีนี้ได้เจอเพื่อนเก่าอย่าง DJ Natty bo แห่ง Ska cubano ที่มาเปิดแผ่นก่อนเราเล่น

เก็บตกอีกนิดหน่อย หลังเวทีสุดท้ายเราได้รับการสัมภาษณ์จาก Glastonbury film ด้วย งานนี้พี่หนุ่มท็อบฟอร์มปล่อยฮาด้วยภาษาอังกฤษหลายดอก มีอยู่ตอนนึงสาวที่มาสัมภาษณ์ก็ถามร่ายไปตั้งแต่ เป็นอย่างไร มาเล่นครั้งแรกไหม รู้สึกอย่างไร จนมาถึง เมื่อคืนคุณอยู่ที่ไหนกัน เนื่องด้วยเราอยู่กันที่ pussy bar พี่หนุ่มตอบทันที่ "in pussy" สาวเจ้าทำหน้าเหวอสุดขีด ก่อนที่เราจะปล่อยฮาหลังจากพี่หนุ่มพูดต่อ Pussy Bar
ยังมีอีกเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นคือช่วงหัวค่ำวันเสาร์มีฝรั่งแก่ๆเดินมาตามหา T-bone ตามเต็นท์ และเข้ามาคุยบอกว่าเราได้ข่าวว่าคุณมาเล่นและเป็นโชว์ที่ดีสนุก ก่อนยื่นนามบัตรทำเอาทีโบนช็อค ด้วยเขาคือพี่ใหญ่สุดที่ก่อตั้งเทศกาลนี้
ps. แล้วจะหาเวลา upload ภาพแบบเต็มๆอีกที

7.15.2550

DTP : Day tripper



ถ้าจะนับกันอย่างเป็นทางการ นี่ก็ล่วงไปอัลบั้มที่ 5 แล้ว หลังจากครั้งแรกจากการรวมตัวของ 1 ครับ กับ 2 emely วงดนตรีในยุค Alternative รุ่งเรื่อง ในอัลบั้ม Seven days หลังจากนั้นก็ได้เดินทางสมชื่อ ก่อนกลับมาเจอกันอีกทีในชื่ออัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขาคือ guity
ก่อนหน้านั้นเราก็ยังร่วมงานกันเรื่อยมาแม้จะย้ายชายคาไปเรื่อย (มีอัลบั้มนึงเราทำงานกันโดยไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ นอกจากคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยียุคเก่า เรายังใช้บริการ ไปรษณีย์ไทย แลกเปลี่ยนจนเสร็จอัลบั้ม) จนเมื่องาน FAT Festival ครั้งหลังสุดที่จัดที่ impact ได้เจอกันถามสารทุกข์สุขดิบ จนได้หวนมาร่วมกันทำงานอัลบั้มในหัวลำโพงอีกครั้ง ส่วนชื่ออัลบั้มนี้มายังไงต้องไปถามคุณทวน กับคุณอูเองครับ

เพลงในอัลบั้มนี้ได้รับการแต่งจนบันทึกเสียงมาพอสมควร ก่อนมาจัดการกันจนสำเร็จช่วงต้นปี 2007 นี้ รวมกับเวลาจัดการ mixed และ mastered ก็พร้อมลงตัวกันในเดือนนี้ วันที่ 18 กรกฎาคม นี่ พร้อมติดตาม Music video ใหม่ของเขาได้แล้ว (ตามสถานนีที่นิยมเปิด :) )

นอกจากนี้ยังติดตาม ทวน ได้เพิ่มเติมหลังจากได้เข้าไปร่วมงานกับ Futon ยุคล่าสุด และกำลังจะมีอัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้


หากอยากจะคุยกัน สอง สมาชิก พบกับพวกเขาได้ใน Myspace :
http://www.myspace.com/thedaytripperband
ทวน : http://www.myspace.com/tuantong
อู : http://www.myspace.com/oohdaytripper

Srirajah Rockers


นอกจากทีโบนแล้ว เราได้ปลุกปั้นบ้าง สนับสนุนบ้าง จนเกิดวงดนตรีน้องรุ่นใหม่ๆ ตามมา ว่ากันตั้งแต่รับปี 2000 Skalaxy สการ็อคแรกสุดแห่งสยาม ต่อด้วยส้ม อมรา อัลบั้ม sweetless อัลบั้มที่ 2 ของ Kaijo Brother ล่าสุดด้วยการดูแลการผลิตโดย คุณ GA-PI หรือรู้จักกันทั้วไปคือ แก็บ ทีโบน เกือบ 4 ปี มาทำความรู้จักกับพวกเขาหน่อย

SRIRAJAH ROCKERS

ประกอบด้วย
1.วิน ชูจิตารมย์ (วิน)ร้องนำ+กลอง
2.กฤษฎา กฤษณจินดา (กอล์ฟ)เบส
3.ธนาคาร โมกขะสมิต (แบงค์)กีต้าร์
4.กษมา ลี้ตระกูล (หวาย)ฟลุท
5.คณะพันธ์ พงศ์ศรีโรจน์(ใหม่)ร้องประสาน

SRIRAJAH ROCKERS
มาจากชื่อของอำเภอศรีราชา+rockers<ในจาไมก้าเรียกเพลงreggaeว่าเป็นเพลงrockและได้แรงบัลดาลใจมาจากหนัง เรื่อง rockers is dangerous>

HISTORY
ศรีราชาร๊อคเกอร์เริ่มจาก วิน กอล์ฟ ต๋อง(อตีตมือกีต้าร์) โดยพื้นฐานเป็นคนศรีราชาโดยกำเนิดที่มีชอบในเพลงเร็กเก้ที่เหมือนกัน เริ่มเล่นดนตรีเร็กเก้ และเขียนเพลงมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนเปลี่ยนได้มีการเพิ่มและเปลี่ยนสมาชิกมาเป็นSRIRAJAH ROCKERSปัจจุบันและได้นำเพลงที่ทำไว้ให้พี่GA-PIฟังที่บ้านศรีราชามาเรื่อยๆ โดยได้คำแนะนำจากพี่GA-PI และได้โอกาสได้ทำเพลงร่วมกับพี่GA-PIจนออกมาเป็นอัลบั้ม ศรีราชา ร๊อคเกอร์

INSPIRATION
แรงบัลดาลใจในการทำเพลงเร็กเก้ เพลงเร็กเก้เป็นเพลงที่สนุกเต้นได้แบบไม่เหนื่อยมาก มีความเพราะที่อยู่ในเนื้อหาที่ข้อนข้างชัดเจนในแต่ละด้านมีจังหวะที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ เป็นเพลงที่มีการเล่นกับพื้นที่ว่างของดนตรี และมีความน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูกเราจึงมีความประทับใจอย่างมากกับเร็กเก้ และcultureต่างๆ จึงเลือกที่จะฟังและเล่นเร็กเก้ แต่เราก็ไม่เคยลืมว่าจริงๆแล้ว พื้นฐานของเราคืออะไร เราคือลูกทุ่งโดยกำเนิด

ศิลปินที่ชื่นชอบ ทีโบน,The soul syndicate,The skatalite,Jackie mittoo,Linval Thompson,The Mighty Diamonds,Zimbabwe Dread,K2r riddim,Dry&heavyและอื่นๆอีกมากมาย


วิน ชูจิตารมย์(วิน)
ตำแหน่ง(กลอง+ร้องนำ)
เกิดวันที่ 1 ธ.ค. 2527
ภูมิลำเนา อ.ศรีราชา จ. ชลบุรี
การศึกษา อนุบาล-มัธยมต้น โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา มัธยมปลาย โรงเรียนชลราฎรอำรุง
อุดมศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลับศิลปากร
ประวัติ เริ่มเล่นฟังเพลงอย่าจิงจังตั้งแต่ป.6 และ เริ่มฟังreggae ตอนมัธยมปลาย เริ่มจากฟังreggaeที่หาฟังได้ง่าย เช่น ทีโบน,sublime, Bob Marley จนเริ่มสนใจ ชอบมากและเริ่มศึกษาและฟัง roots reggae ,dub,ska,dance hall ศึกษาวัฒนธรรม Jamaican ,rastafarian และรู้สึกว่าreggae เป็นเพลงที่ตัวเองชอบและหลงไหลมากที่สุดทั้งจังหวะ ภาษา เนื้อหา space ของเพลง สี การใช้ชีวิต ที่เป็นเอกลัษณ์ น่าค้นหา น่าสนใจ ฟังสบาย มีความสุขมากบ้าไปแล้ว
มีหนังเรื่องนึงชื่อว่า rockers is dangerous ที่ทำให้บ้าไปเลย เท่ห์มาก จนต้องทำdread lock เก็บเงินซื้อมอเตอร์ไซด์ Honda รุ่นเก่า แต่ก็มีหลายคนเตือนว่าอย่างหลงไปกับมันมาก และก็คิดได้ว่าไม่จำเป็นเลยที่เราชอบ เคารพ ไม่จำเป็นต้องทำตามไปเสียทุกอย่าง เพราะจริงๆแล้วเราคือคนไทยหัวใจลูกทุ่ง แต่จริงแล้วreggae ก็มีส่วนคล้ายลูกทุ่งมากแม้กระทั่งเรื่องของsound และเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านเหมือนกันเริ่มทำเพลงreggaeตั้งแต่ตอนปี1ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่าmazume” เป็นชื่อตั้งแต่ที่เล่นวงที่โรงเรียนสมัยมัธยมปลายมีวันนึงได้นั่งเล่นกันกอล์ฟ(เบส)ว่ามาทำเพลงreggae ขายกันเล่นๆดีไหม แล้วเราก้รวมตัวกัน3คน มี วิน กอล์ฟ ต๋อง(กีต้าคนเก่า) และก็พูดกันเล่นว่าจะเอาเพลงให้พี่แก๊ปทีโบนฟังและช่วยcomment พอพี่แก๊ปฟังก็ไม่ชอบเลย และเราก็ทำเพลงreggae มาเรื่อยๆ
ทุกๆปิดเทอมเราจะรวมตัวกันเสมอ และเริ่มฟังreggae อย่างหนักขึ้น และทำเรื่อยๆจนให้ใหม่มาช่วยครอรัส และทำให้เพลงเราเพราะขึ้น แล้วก็ให้พี่แก๊ปฟังเพลงเราอีกจนเริ่มสนใจ จนต๋องได้ออกไปเพื่อตั้งใจเรียนหนังสือและก็เลือกทางของตัวเองเป้นนักบัญชีแนวหน้า เลยให้เพื่อนอีก2คนคือแบ้ง(กีต้าร์) หวาย(ฟรุต) มาช่วยเล่นให้ และผมก็เริ่มบังคับ ยัดเยียด ให้ฟังreggae จนเพื่อนๆเริ่มเข้าใจเพลงและเราก็เล่นดนตรีกันมาตลอดในมหาลัย และข้างนอก จนพี่แก๊ปก็ให้โอกาสที่ดีกับเรามากมาก ให้เราได้ออกกับหัวลำโพงริดดิม ค่ายเพลงในฝันสมัยตอนเด็กๆ และพี่แก๊ปก็ให้คำแนะนำ คำสอน โอกาส ให้เราได้เล่นเร็กเก้อย่างที่เราชอบจริงๆ และเป็นproducer ให้กับวงเราด้วย เรามีความสุขมากที่ได้ทำเพลงร่วมกับพี่แก๊ป ได้ไกล้ชิดกับครอบครัวพี่แก๊ป ได้เข้าห้องอัดที่ดีมากคือ dynamic studio เราตื่นเต้นมาก สุดๆ เราเหนื่อยมากแต่ก็คุ้มที่ได้ทำแบบนี้ แต่เราก็เป็นวงดนตรีนักศึกษา ก็ต้องเรียนให้จบก่อน แล้วที่เหลือก็ถึงไหนถึงกัน แต่ทุกคนก็ต้องทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อนาคตมันไม่แน่นอนโปรดติดตามกันต่อไป สวัสดี


ชื่อ คณะพันธ์ พงศ์ศรีโรจน์ ชื่อเล่น ชื่อใหม่(คอรัส)
เกิดวันที่19กพ 2528
ภูมิลำเนากรุงเทพ
ประวัติ : จบจากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ตอนนี้เรียนอยู่ ปี4คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
รู้จักกับวินตอน ปี1 พอได้ร้องเพลงหรือทำไรสนุกๆรวมกันบ้าง แล้วก็สนิทขึ้นเรื่อยๆ ปกติไม่ชอบร้องเพลงออกที่สาธารณะชอบร้องเพลงสนุกๆกับเพื่อนๆมากกว่ามากๆ แต่วินก็ชวนเข้ามาช่วยคอรัสตอนที่ทำเพลงขายเองเล่นๆก็คิดว่าคงจะเจ๋งไปอีกแบบ ก็เริ่มไปอัดเพลงกับวินที่ศรีราชา แล้วก็ได้รู้จักกับ ก๊อฟ กับต๋องวินก็ขายเพลงมาเรื่อยๆ แล้วก็พยายามเอาเพลงให้พี่แก๊ปฟังจนมีโอกาสได้ทำเพลงอย่างจริงๆจังๆแต่งเพลงกับวินบ้าง แต่ก็ไม่มาก ช่วงเวลาส่วนใหญ่จะซ้อมแล้วก็อัดเบางทีก็มีเพื่อนไปร่วมแจมอีก สนุกดี แล้วก็เริ่มมีโอกาศได้เล่นสดที่ศรีราชา ช่วงนั้นสนุกมากคือที่บางแสน แล้วก็ที่มหาวิทยาลัย แต่ช่วงหลังๆ จะซ้อมแล้วก็อัดเพลงจริงๆอยู่ที่กรุงเทพ คือที่สตูดิโอพี่กานต์ สนุกแล้วก็เหนื่อย แต่ชอบเพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้อัดเพลงกับเขา


กษมา ลี้ตระกูล (ฟรุต)
เราชื่อ...กษมา ลี้ตระกูล ชื่อเล่นหวาย เกิดวันพุธที่19 กันยายน 2527 ที่โรงพยาบาลสหเวช จังหวัดโคราช แต่มาโตที่กรุงเทพฯแม่แค่ไปคลอดที่นั้น หลังจากคลอด8ปีโรงพยาบาลก็เจ๊งT_T ตอนแรกที่เกิดไม่ได้ชื่อนี้ พระท่านทักเลยเปลี่ยนชื่อ แต่ก่อนเราชื่อ รภัส ชื่อเล่นข้าว จบการศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบ
...ชีวิตก็ดี เรื่อยๆ ได้เล่นดนตรีแต่ก็เอาดีไม่ได้ซะทีเดียว ตอนแรกเรียนอิเล็กโทน/เปียโน แต่ไม่ค่อยถูกกับเครื่องดนตรีแบบกดเท่าไหร่ พออายุ12-13 โดนพี่ชายหลอกให้มาเข้าดุริยางค์ ด้วยความที่เป็นเด็กทะเยอทะยาน อยากเล่นเครื่องดนตรีใหญ่กว่าที่พี่เล่น เลยเล็งทรอมโบน(ยากเล่นมากๆ)แต่ไม่ได้เล่นเพราะแขนยาวไม่ถึง จะเล่นทูบาเครื่องก็จะทับ ไม่เล่นทรัมเป็ทเพราะเหมือนพี่ เล่นฮอร์นแต่อยากได้เฟรนฮอร์นเลยมันเท่ดี รุ่นพี่บอกไม่ได้ ก็เลยไม่เล่น(หยิ่ง สุดๆ) เลือกไปเลือกมา...สุดท้ายมาลงที่ฟรุ๊ท อย่างพริ้วหนะเครื่องดนตรีนี้ เท่ห์ดี ได้รุ่นพี่ฝึกที่ดีก็พี่อ้วน อาร์มแชร์เนี๊ยะหละ พี่เค้าสูงปรี๊ดเลย แต่เป่าปิคโคโลอันจี๊ดเดียว เราตัวเตี๊ยๆเป่าอันตั้งยาว ก็ฝึกมาด้วยความชอบและตั้งใจเล่นดนตรีเพื่อความสุขส่วนตัว ตอนไม่สบายใจหรือโกรธใคร พอได้เป่ามันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก มีความสุขที่จะเป่า ไม่ได้มีความสุขที่เก่งชนะใครได้หนะ
พอได้เข้ามาเรียนที่คณะสถาปัตย์ฯ ม.ศิลปากร ก็ไม่ได้กะจะทิ้งฟรุ๊ทเพราะอย่างที่บอกแหละ เป่าแล้วมีความสุข ก็ได้เล่นบ้างตอนปี1 หน้าคณะ แล้วก็แอบเล่นที่หอพักตอนที่รูมเม็ตไม่อยู่ เป่าอยู่ตรงระเบียง(อย่างเท่หละ) พอมาปี3 ก็ได้มาเล่นจริงๆจังๆกับวงsrirajah rockerนี้ โดยมีวินผู้มีแรงผลักดันสูงงงงงงงงในการเล่นดนตรี แต่ก่อนเคยแต่เล่น Classic flute,Jazz flute ตอนนี้ได้มาเล่นreggae,ska....ก็จะทำให้ดีที่สุดฮะ


ชื่อ ธนาคาร โมกขะสมิต
ชื่อเล่น แบงค์ (84NK)
วันเกิด 30 กันยายน 2528
ภูมิลำเนา กรุงเทพมหานครฯ
อนุบาล วชิรานุบาล
ประถม – มัธยม กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รุ่น150
ปัจจุบัน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ชั้นปีที่4 studio49
ตำแหน่ง กีต้าร์ , ร้องประสาน

เริ่มหัดเล่นกีต้าร์ตั้งแต่สมัย ม.2 กับเพื่อนที่ ก.ท จนฟอร์มวงกับเพื่อนๆเพื่อเล่นในงานโรงเรียนและงานปาร์ตี้ต่างๆในโรงเรียน ช่วงวัยรุ่นเริ่มฟังและเล่นเพลงจากแนว Rock และ Metal เป็นส่วนใหญ่ พอช่วงหลังๆก็ฟังเพลงหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ

พอจบการศึกษาจาก ก.ท แล้วก็ได้มารู้จักกับ ”วิน” ที่ “ถาปัด เผอิญว่าคุยกันถูกคอ(ทั้งฟังเพลงมาเหมือนกัน และเคยเล่นดนตรีมาเหมือนๆกัน) เลยมีความคิดที่จะตั้งวงขึ้นมาเพื่อที่จะเล่นในงานปาร์ตี้หน้าคณะ โดยที่มี ”ใหม่” เป็นนักร้องขาจร และมาช่วยคอรัสในบางเพลง และ ”หวาย” ที่เคยมาช่วยเป่าฟลุตให้บางเพลงเช่นกัน

ช่วงปี3 ก็เลยได้ไปช่วยเล่นให้ “วิน ” เนื่องจากมือกีต้าร์คนเก่าได้ออกจากวงไปและได้รู้จักกับ “กอล์ฟ” ที่ศรีราชา โดยที่แกนหลักของวงจะเป็น ”วิน” ที่จะแต่งเนื้อและทำนองมาก่อน แล้วก็จะช่วยกัน arrange โดยการไปรวมกันในห้องซ้อมสโมสรไทยออยล์ ( บ้านวินที่ศรีราชา ) ได้คุยกับพี่แก๊บ และได้ทำอัลบั้มในที่สุด

โดยส่วนตัวแล้วชอบ Radiohead มากๆ ฟังเรกเก้น้อยมาก แทบจะไม่รู้จักศิลปินเรกเก้เลย หลังๆมาก็จะได้ฟังมากขึ้นจากการที่มาช่วยอัดเพลงให้วิน ซึ่งถ้าเป็นเรกเก้ ก็จะชอบ dub แบบหม่นๆ ไม่เคยมีกีต้าร์เป็นของตัวเองเลย และไม่เคยเรียนกีต้าร์ด้วย อุปกรณ์ต่างๆที่ได้
มาก็จะเป็นของญาติ เพื่อนๆ และคนรู้จัก ( มีฉายาว่า แบงค์กีต้าร์ยืม และ แบงค์เอฟเฟคยืม ).....


กฤษฎา กฤษณจินดา (กอล์ฟ) ตำแหน่ง เบส
เกิด วันที่ 15 มีนาคม 2528  ภูมิลำเนา ศรีราชา
การศึกษา อัสสัมชัญศรีราชา   ชลชาย   มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา

เริ่มเล่นดนตรีตอนมัธยมปลาย โดยวินมือกลองซึ่งเป็นเพื่อนมาตั้งแต่ประถม ได้มาชวนให้เล่นด้วยกัน มีวินกับต๋องกีต้าคนเก่า เล่นดนตรีมาด้วยกันมาตลอด และได้ส่งเพลงไป fat radio เพลงได้ลงcdในหนังสือ ddt  เล่มแรกและเพื่อนให้กำลังใจ ติดตาม เพลงของเรามาตลอดทำให้เกิดแรงบัลดาลใจในการทำเพลงต่อไป ก่อนที่จะได้ออกอัลบั้มนี้ได้เปลี่ยนชื่อวงเป็น srirajah rockers โดยที่วินเสนอมา ฟังดูแล้วสำนึกรักบ้านเกิดดี และได้รู้จักกับเพื่อนวินที่ศิลปากร ที่ทำให้วงมีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ้งขณะนั้นได้รู้จักกับพี่แก๊ป ทีโบน พี่แก๊ปได้เป็นแรงบัลดาลใจ และผลักดันจนอัลบั้มนี้

เริ่มฟังreggae มาพร้อมๆกับวิน วินมีแรงบัลดาลใจในการทำเพลงสูง เพลงที่ออกมาส่วนใหญ่มาจากวิน วินมีความทะเยอทะยานสูง มีความบ้า ในการทำเพลง เป็นแกนหลักของวง  ชอบreggae เพราะว่าสมัยเล่นดนตรีจะหาเพลงแปลกๆฟัง เพราะเมื่อก่อนจะเน้นเพลงเร็วๆ พอได้ฟังreggae 
ทำให้รู้สึกชอบเพราะลักษณะของเพลงเป็นเพลงที่โยกช้าๆ ดนตรีมีความเป้นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์อยู่ในตัวของมันเอง

+++++++++++++++++++++++++
PROFILE เพลง
แรงบัลดาลใจในการเขียนเพลง

1.check your move
เพลงนี้เขียนที่ศรีราชา ตอนนั้นนั่งเล่นอยู่หลังบ้านแล้วทำนองมันก็ออกมาเอง ก็เลยรีบอัดไว้ แล้วเขียนเนื้อต่อตอนนั้นอยาดพูดถึงการเต้นของเพลง reggae ที่มีการเต้นแบบเนิบๆ สบายๆ แต่การเต้นของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป และก็ควรสำรวจการเต้น
สำรวจการเคลื่อนไหวของคุณด้วย อีกอย่างนึงคือคนที่ไม่ลุกออกมาเต้นก็ควรออกมาสำรวจการเคลื่อนไหวกับเราด้วยและให้ความเคารพมันด้วยแต่พอร้องเพลงนี้ไปเข้า พี่แก๊ปแล้วก็อีกหลายคนฟังเป้น shake your moon ซึ่งเป้นคำแสลงของฝรั่ง ที่แปลว่าโยกย้ายส่ายสะโพกเพลงนี้เป็นreggaeที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับการเต้นคนเดียว รวมทั่งชาวคณะ

2.rude boys gangstar
rude boysเป็นชื่อเรียกของนักเลงจาไมก้า ที่เอามาเปรียบเทียบกับนักเลงหรือเด็กๆที่รักความเร็ว แต่ไม่ค่อยรักตัวเอง เพลงนี้แต่งเนื้อและทำนองที่ศรีาราชาและพวกเราก็ร่วมกันเล่นเป็น acustic กันแล้วเกิดความประทับใจเลยส่งให้พี่แก๊ปฟังพี่แก๊ปเลยเกิดความชอบ เพลงนี้เลยออกมาเป็นacustic reggaeมีความสุกสนาน ฟังสบาย เพลงนี้พวกเราไม่ได้อัดแยกชิ้น อัดรวมกันแบบเล่นพร้อมกัน เลยทำให้ดูสดไปหน่อยอาจมีข้อผิดพลาดบ้างเล็กน้อย แต่พวกเราสนุกมาก

3.srirajah rockers in DUB
เพลงนี้เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั่มที่เราทำขายเอง อัลบั้มเก่าที่สมาชิกในอดีตอยู่ด้วยกัน3คน เพลงนี้ก่อนหน้านั้นเราช่วยกันแต่งโดยลายเบสเกิดมาจากการฮำสนุกๆ โดยใช้เวลาทำเพลง20นาทีพอวันรุ่งขึ้นก็ไปซ้อม1ชม. แล้วจากนั้นเราก็อัดใน studioที่ชลบุรี เพลงนี้ในตอนเล่นคอนเสริต เราอยากให้เพลงนี้เป็นเพลงเปิดตัวของเราแล้วพอมาอัลบั้มนี้พี่แก๊ปได้เอาเพลงนี้ไป mixใหม่ ทำให้เพลงนี้ออกมาเป็นเพลง srirajah rockers in DUB ที่พวกเราชอบมากกระชากใจดีเพลงนี้ต๋อง(มือกีต้าคนเก่า) เป็นคน skank เพลงนี้เราจะพูดถึงตัวเองว่า เยี่ยม!!

4.เก็บเล็กผสมน้อย
เพลงนี้พูดถึงคนที่ไม่เคยมีความรัก แล้วกำลังรอใครสักคน แล้วถ้าเค้ามีคนที่รักแล้ว เค้าจะค่อยๆซึมซับความรักอย่างช้าๆ ที่ทำให้มีความสุขกับความรักมากที่สุด เหมือนกับเวลาที่ได้กินของที่อร่อยๆก็จะค่อยซึมซับความอร่อยผ่านลิ้นให้ความอร่อยได้อยู่อย่างยาวนานมากที่สุด เพลงนี้เขียนที่ศรีราชาเป็นเพลงรักช้าๆ พอโยกย้ายอย่างช้าๆและเพลงนี้เป็นเพลงรัก และเป็นเพลงช้าเพลงเดียวของ srirajah rockers

5.และแล้ววันหนึ่ง
เพลงนี้พูดถึงการที่จะทำอะไรสักอย่างที่เราชอบและเป็นความฝันของเรา ถ้าเราตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่ และแล้ววันหนึ่งก็จะประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อเองเพลงนี่แต่งที่นนทบุรี เกิดจากกการนอนไม่หลับแล้วก็เลยอยากหาอะไรทำเลยเขียนเพลงเล่นๆ แล้วก็อยากให้เป็นเพลงที่สนุกสนาน เพลงนี้ทำทำนองที่ศรีราชา

6.8640
เป็นเพลงที่เราแจมกันเล่นๆในห้องซ้อมที่สโมสรไทยออยล์ ศรีราชา วันนั้นเราซ้อมดึกและเสียงดังมาก และข้างๆห้องมีงานเลี้ยงกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านพนักงานของไทยออยล์แล้วอยู่ดีๆ เค้าก็เดินมาว่าเรามาถามเราว่า "นี่คือกลุ่ม8640รึป่าว ให้เลิกเล่นเดี่ยวนี้เลย"พวกเรางงมากแค้นมากว่าทำไม่ต้องตะคอกใส่ด้วยแล้วตอนนั้นเราหาชื่อเพลงไม่ได้สักที่เราก็เลยใช่ชื่อว่าเพลง8640 เพลงนี้เป็นเพลงบบรรเลงที่เป็น reggaeที่ค่อนข้างเร็ว และมีจังหวะที่ดุดันบ้างเล็กน้อยซึ่งมีพี่นิ้วทอง ยอดลีลา ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่แก๊ป มาช่วยอัดคีบอร์ดให้

7.ยึดติด
เป็นเพลงแรกที่แต่งขึ้นมาใหม่ และเพื่อนๆในวงก็ช่วยขัดเกลา เพลงนี้แต่ที่ศรีาราชา เพลงนี้พูดถึงความเป็นตัวของตัวเอง อย่าไปลอกใคร แล้วเพลงนี้เราพยายามเสียดสีคนที่ชอบลอกเลียนคนอื่นcopyคนอื่น แล้วก็ชอบเชื่อคนอื่นไม่ยอมเชื่อใจตัว แล้วก็จะโดนหลอกง่ายๆ เป็นเพลงสนุกๆสนุก มีจังหวะจะโคนน่ารักๆ เป็น reggae+rocksteady

8.your style
เพลงนี้เป็นเพลงที่เคยอยู่ในอัลบั้มเก่าที่เคยทำเองมาก่อน แล้วพี่แก๊ปก็เลือกเพลงนี้ให้ มาทำใหม่ mix ใหม่ เป็น reggae ที่ค่อนข้างดุดันและหม่นๆ เพลงนี้พูดถึง ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ อย่ายึดแต่กับเรื่งเดิมๆ ลองเปลี่ยนใหม่ดูบ้างกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองฝันตาม styleของตัวเราเอง

9.rude boys karaoke
เป็นเพลงrude boys gangstarอีกเวอร์ชั่นนึงที่เป็นrocksteadyบรรเลงโดยฟรุตมีจังหวะสนุกหนาน อยู่ในtrack สุดท้าย

7.14.2550

Sawasdee :) 2007

ครึ่งปีมาแล้ว จัดการหลายอย่างได้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น จะได้มาเขียนแลกเปลี่ยนกันที่นี่ครับ